กระทรวงพลังงานชี้แจงข้อเสนอแนะแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP2024)
กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนเกี่ยวกับร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP2024) ซึ่งกำหนดทิศทางการผลิตไฟฟ้าและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30-40% ภายในปี 2573 ตามพันธกรณีที่ประเทศไทยได้ร่วมในข้อตกลงสหประชาชาติ
เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนใน PDP2024
หนึ่งในข้อเสนอที่สำคัญจากกลุ่มผู้ประกอบการและสถาบันเอกชน (กกร.) คือการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยเสนอให้เพิ่มจาก 51% ในปี 2580 เป็น 68% ภายในปี 2583 และ 74% ภายในปี 2593 เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ (LT-LEDs) กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงว่า ร่างแผนพีดีพีที่อยู่ระหว่างการพิจารณานั้นได้กำหนดเป้าหมายการปล่อย CO2 ตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศในระดับ 30-40% ภายในปี 2573 ซึ่งจะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions ในปี 2608
การใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด
จากร่างแผนพีดีพีปี 2567-2580 จะมีการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตไฟฟ้า โดยเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการความผันผวนของพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติจะลดลงจาก 60% เหลือประมาณ 41% โดยกระทรวงพลังงานได้คำนึงถึงความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าและต้นทุนไฟฟ้าที่เหมาะสม
การเตรียมพร้อมสำหรับพลังงานทางเลือก
กระทรวงพลังงานยังได้แนะนำให้มีการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงการนำก๊าซไฮโดรเจนมาผสมกับก๊าซธรรมชาติในสัดส่วน 5% ตั้งแต่ปี 2573 และการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โมดูลขนาดเล็ก (SMR) ขนาด 600 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปี 2580 นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเป้าหมายการลดความต้องการไฟฟ้าในช่วงพีค (Peak Reduction) และการเพิ่มความสามารถในการตอบสนองด้านโหลด (Demand Response) ในช่วงปี 2569-2580
เปิดเสรีตลาดไฟฟ้า
อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือการเปิดเสรีตลาดไฟฟ้า โดยจะเริ่มต้นจากการเปิดระบบโครงข่ายไฟฟ้าแก่บุคคลที่สาม (TPA) และนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญา Direct Power Purchase Agreement (Direct PPA) ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นในระบบไฟฟ้าและลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนสูง
บทสรุป
การพัฒนาแผนพีดีพี2024 เป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่การเป็นประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) โดยการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในอนาคต
กกร. PDP2024 พลังงานหมุนเวียน แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก