สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีศุลกากร 36% กับสินค้าจากไทย ตั้งแต่ 9 เม.ย. ยกเว้นสินค้าที่ลงเรือแล้ว
วันที่ 7 เมษายน 2568 - นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงขั้นตอนที่สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้า รวมทั้งประเทศไทย โดยสหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษี 10% กับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันที่ 5 เมษายน 2568 (เวลาสหรัฐฯ) โดยสินค้าที่ขนส่งลงเรือหรือยานพาหนะแล้ว และอยู่ระหว่างการเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนเวลาดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษีนี้จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา
ขั้นตอนการเก็บภาษีและอัตราใหม่
ในระยะแรก สหรัฐฯ จะเก็บภาษี 10% ซึ่งเป็นการเพิ่มจากอัตราภาษีที่มีอยู่แล้ว (MFN apply rate) รวมถึงอากรและค่าธรรมเนียมที่แต่ละประเทศถูกเก็บอยู่เดิม หลังจากนั้น ในระยะที่สอง เริ่มตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันที่ 9 เมษายน 2568 สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) โดยเฉพาะตามอัตราที่กำหนดสำหรับแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยจะถูกเก็บภาษีในอัตรา 36% เพิ่มจากอัตราภาษีที่เรียกเก็บอยู่แล้ว
ทั้งนี้ สินค้าที่ขนส่งลงเรือหรือยานพาหนะแล้ว และกำลังเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนเวลา 00:01 น. ของวันที่ 9 เมษายน 2568 จะยังได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษี 36%
ข้อมูลจาก thaipbs
ภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทนและข้อยกเว้น
ในระยะที่สองของการเก็บภาษีนี้ สหรัฐฯ จะใช้ภาษีแบบต่างตอบแทนเฉพาะสำหรับสินค้าจากแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นถึง 36% ซึ่งจะมีผลต่อสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ภาษีต่างตอบแทนดังกล่าวจะไม่รวมถึงสินค้าที่สหรัฐฯ เคยประกาศมาตรการเก็บภาษีเฉพาะมาแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ สินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม ที่ถูกเก็บภาษี 25% เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 และสินค้ารถยนต์และชิ้นส่วนที่เริ่มเก็บภาษี 25% เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 นอกจากนี้ ภาษีต่างตอบแทนนี้จะไม่ใช้กับสินค้าบางประเภท เช่น ทองแดง ยาและเวชภัณฑ์ เซมิคอนดักเตอร์ ไม้แปรรูป แร่ธาตุสำคัญบางประเภท พลังงาน และผลิตภัณฑ์พลังงาน ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะประกาศใช้ภาษีเฉพาะเพิ่มเติมในภายหลัง โดยคาดว่าจะเก็บเพิ่มในอัตรา 25%
ข้อมูลจาก thaipbs
ผลกระทบและการเยียวยาผลกระทบของการเก็บภาษี
แม้ว่าสหรัฐฯ จะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทนเป็นรายประเทศ แต่การประกาศครั้งนี้ก็เปิดโอกาสให้เกิดการเจรจากับประเทศคู่ค้าเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าให้เป็นธรรมและเท่าเทียมยิ่งขึ้น โดยสหรัฐฯ มุ่งหวังที่จะลดการขาดดุลการค้าและเสริมสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศผ่านการเจรจาและการปรับปรุงข้อตกลงทางการค้า
รัฐบาลไทยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาข้อเสนอจากคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ เพื่อหารือในการเจรจาปรับลดและยกเว้นอัตราภาษีต่างตอบแทนที่สหรัฐฯ จะเก็บจากไทยในอนาคต ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการเตรียมมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการเก็บภาษีนี้ โดยจะมุ่งเน้นการส่งเสริมการขยายตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดฮาลาลและตลาดเกิดใหม่ รวมถึงการเร่งเดินหน้าเจรจา FTA กับประเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้า
ในขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังคงเตรียมมาตรการที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป
ภาษีสหรัฐ ภาษีนำเข้า ทรัมป์ การค้าไทยสหรัฐ ภาษีต่างตอบแทน ตลาดสหรัฐ ภาษีเพิ่ม การค้าระหว่างประเทศ การส่งออก FTA ภาษี36% การเจรจาการค้า เศรษฐกิจไทย การค้าระหว่างประเทศ