ข่าวสาร

สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าสำคัญ ประจำสัปดาห์ 13 - 17 มกราคม 2568

ไทย คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติข้อเสนอปรับปรุงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยมุ่งดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย (LTR Visa) ผ่านการผ่อนปรนและยกเลิกข้อกำหนดบางประการสำหรับบุคลากรที่มีศักยภาพสูงใน 4 กลุ่ม ได้แก่

  1. ผู้ที่มีทักษะเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  2. ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในประเทศไทยให้แก่นายจ้างในต่างประเทศ
  3. ผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง
  4. ผู้ที่เกษียณอายุ

มาตรการนี้ยังรวมถึงการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่มีทักษะเชี่ยวชาญเหลือเพียง 17% พร้อมทั้งผ่อนปรนการรายงานตัวต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจากทุก 90 วัน เป็นปีละ 1 ครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างแรงจูงใจให้ชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวเข้ามาอาศัยและทำงานในประเทศไทยมากขึ้น.

จีน ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 การส่งออกของจีนขยายตัวที่ 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.0% (YoY) สาเหตุหลักมาจากผู้ส่งออกสินค้าจากจีนเร่งส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีนโยบายเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568

นอกจากนี้ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องพิมพ์ 3 มิติ และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ซึ่งมีการเติบโตถึง 40.0% รวมถึงการเติบโตของการซื้อขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในจีนที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันตัวเลขการส่งออกดังกล่าว.

ราคาทองคำ  ราคาทองคำเพิ่มขึ้น ราคาทองคำโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 2,689.18 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.1% ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 44,000 บาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.5%

อัตราการแลกเปลี่ยน เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนพลิกแข็งค่า หลังนักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นต่อการที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ จากตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด

ราคาน้ำมันดิบ เฉลี่ย WTI 78.58 USD/BBL | Brent 81.01  USD/BBL | Dubai 83.06 USD/BBL


 

ข้อมูลจาก สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า  TPSO