ไทย ในเดือนมีนาคม 2568 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยราคาสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เนื้อสัตว์ และอาหารสำเร็จรูปเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันดีเซลและค่าเช่าบ้านที่สูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.08% (YoY) และสำนักงานฯ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่ 2 จะมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
สำหรับการส่งออกข้าวของเมียนมาในปีงบประมาณ 2567-2568 (1 เม.ย. 2567 - 31 มี.ค. 2568) ปริมาณข้าวที่ส่งออกอยู่ที่ 2.48 ล้านตัน มูลค่า 1.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2.5 ล้านตัน เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและนโยบายควบคุมการส่งออก อย่างไรก็ตามเมียนมายังคงส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมา
อินโดนีเซียมีแผนที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ได้แก่ น้ำมัน, ก๊าซ LPG, ก๊าซ LNG และสินค้าการเกษตรสำคัญ ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาเพื่อผ่อนปรนมาตรการทางภาษีศุลกากรต่างตอบแทนของสหรัฐฯ ซึ่งอินโดนีเซียยังคาดว่าจะเพิ่มการนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวสาลี เนื่องจากผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ในส่วนของมาเลเซีย ผู้ว่าการธนาคารกลางกล่าวว่า ภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ เรียกเก็บเพิ่มอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของมาเลเซีย แต่เศรษฐกิจมาเลเซียยังคงได้รับประโยชน์จากการกระจายตัวของภาคเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยมีภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% ของ GDP และรัฐบาลมาเลเซียมีมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากภาษีนี้
สิงคโปร์กำลังเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพและภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับชาวสิงคโปร์ในการเลือกผู้นำที่เหมาะสม
ฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภายนอกน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเศรษฐกิจฟิลิปปินส์พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศน้อยกว่าในภูมิภาคอาเซียน และการบริโภคภายในประเทศยังคงช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เกาหลีใต้กำลังเตรียมมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ โดยรัฐบาลจะใช้เงินประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมส่งออกหลัก เช่น รถยนต์ เหล็ก เซมิคอนดักเตอร์ และแบตเตอรี่ พร้อมทั้งมีมาตรการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจ
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า GDP ของลาวในปี 2568 จะขยายตัว 3.9% โดยได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคบริการโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว ถึงแม้ภาคเกษตรยังเผชิญกับความท้าทายจากสภาพอากาศแปรปรวนและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกขยายตัว 6.9% และรัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าเศรษฐกิจปี 2568 เติบโต 8.0% โดยได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกสินค้าที่เติบโตได้ดี
สำหรับประเทศไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทยได้แสดงแนวทางการรับมือนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยเน้นการสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและการแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงการพิจารณาการลงทุนเพิ่มเติมในสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการนี้.
สหรัฐ การเก็บภาษีนำเข้าตามมาตรการตอบแทน (Reciprocal Tariff) 10% ตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ คิดเป็น 40% ของการนำเข้าสินค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีการสูญเสียงานหลายพันตำแหน่งในภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้ รัฐอื่นๆ เช่น นิวยอร์ก ฟลอริดา และมอนทานา ก็ได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีที่สูง และได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน การเก็บภาษีนำเข้าดังกล่าวยังมีผลกระทบต่อตลาดสินค้า ตลาดหุ้น และการลงทุน และมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก.
ราคาทองคำ ราคาทองคำเพิ่มขึ้น โดยราคาทองคำโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 3,271.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.7% ขณะที่ราคาทองคำแท่งของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 51,710 บาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.3% ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมีดังนี้
อัตราการแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวน โดยอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ก่อนที่จะกลับมาแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 6 เดือน ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำโลก.
ราคาน้ำมันดิบ เฉลี่ย WTI 62.86 USD/BBL | Brent 66.63 USD/BBL | Dubai 68.82 USD/BBL