บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BCP รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ผลการดําเนินงานสําหรับไตรมาส 1/67 กลุ่มบริษัทบางจากมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของแหล่งผลิต Statfjord เนื่องมาจากปริมาณการผลิตในปี 2567 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการขุดเจาะหลุมเพิ่มเติมในช่วงปลายปี 2566 แต่ปริมาณปิโตรเลียมที่ไม่เพียงพอต่อการนําไปใช้ผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ (Dry Well)
โดยเมื่อคํานวณสุทธิตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นคิดเป็นจํานวนเงินประมาณ 401 ล้านบาท แต่กระนั้นก็ตามมีการกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์หลังหักภาษีของแหล่งผลิต Yme ประมาณ 35 ล้านบาท จากราคาน้ํามันคาดการณ์ล่วงหน้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากการด้อยค่าของแหล่งผลิต Statfjord ได้บางส่วน
ส่งผลให้มีกําไรส่วนของบริษัทใหญ่ 2,437 ล้านบาท เติบโต 100% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกําไรต่อหุ้น 1.68 บาท
สำหรับรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 135,382 ล้านบาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 และเพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 และมีกำไร EBITDA 15,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 และเพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 โดยกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ํามันได้รับแรงหนุนหลักจากโรงกลั่นบางจากที่มีอัตรากําลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ทําสถิติสูงสุดที่ 271.7 KBD
สาเหตุหลักมาจากกําลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นกว่า 150 KBD ของโรงกลั่นศรีราชา ประกอบกับ Operating GRM ที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และการรับรู้ Inventory Loss (รวม NRV) ลดลง
กลุ่มธุรกิจการตลาด สร้างสถิติใหม่ด้วยปริมาณการจําหน่ายน้ํามัน รวมทุกช่องทางที่ 3,541 ล้านลิตร เติบโต 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 และมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ปัจจัยสําคัญที่สนับสนุนการเติบโตนี้จากเครือข่ายสถานี บริการที่ครอบคลุมกว่า 2,217 สถานีทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลยุทธ์การตลาดที่ผสาน รวมอย่างมีประสิทธิภาพ และยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากสถานีบริการภายใต้การดําเนินงานของ BSRC หลังการปรับปรุงภาพลักษณ์เป็นแบรนด์บางจาก
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการจําหน่ายใน Q1/67 เพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 และ 53% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก บริษัท บางจาก ศรีราชา จํากัด (มหาชน) สําหรับธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด กำไร EBITDA เติบโตขึ้น 35% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 และ 66% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 โดยหลักจากการรับรู้ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้น
อีกทั้ง ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ สร้างสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปริมาณการผลิตและปริมาณการขายปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญจากการรับรู้ผลการดําเนินงานเต็มไตรมาสของแหล่งผลิต Statfjord ที่ได้เข้าถือกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 66 และแหล่งผลิต Hasselmus ที่เริ่ม COD ในเดือน ต.ค. 66
แหล่งที่มา: Thairath Money